Tuesday, 1 November 2016
Thursday, 27 October 2016
#เสื้อแดง บุกโรงพยาบาลจุฬา : เสียงปนสะอื้นของพยาบาลจุฬา
22.00 เราจะลบโพสนี้. >>>
อ่านแล้วก็สะเทือนใจ และหวังว่าคนไทยจะไม่ลืมง่ายเกินไป
ว่าไอกี้และแกนนำตอนนั้นทำอะไรไว้บ้าง มันไม่ใช่แค่คิดต่างนะครับ -@T3Thee
>>>>>> คลิปประกอบเรื่องเล่า. เป็นหนึ่งในคลิปที่ดูแล้วร้องไห้.
ชื่อคลิป : เสียงปนสะอื้นของพยาบาลจุฬา [HQ].mp4
https://www.youtube.com/watch?v=hXleko42YfA&feature=youtu.be
Mena Wachirapon จึงขออนุญาติก๊อปข้อความของพยาบาลที่ รพ.จุฬา มาให้ทุกคนอ่านค่ะ (เรา : ยกเว้น 2 บรรทัดแรก. เราคิดว่ามันเป็นเรื่องราวที่พยาบาลทุกคนในประเทศนี้ต้องอ่านประกอบวิชาชีพพยาบาล)
"คือ...พยาบาลไม่ได้โหดแบบนี้ทุกคนนะคะ แต่ทุกคนมีความคับแค้นใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่การแสดงออก อาจต่างกัน โดยส่วนตัว ได้เจอเหตุการณ์ตั้งแต่มันเริ่มตั้งแคมป์ สร้างค่าย คู ประตูรบ ไล่คนไข้ออกจากจุฬา...
วันนั้น เราย้ายคนไข้ทั้งน้ำตา...คนเลวอย่างหาที่ติไม่ได้เท่านั้น จึงทำแบบนี้ได้ สมเด็จพระสังฆราชต้องย้ายหนีมัน ทั้งที่ทรงอาพาตและชรามาก จนสุดท้าย เราต้องปิดโรงบาล
โรงบาลจุฬา มีประวัตินับร้อยปี รักษาผู้ป่วยโดยไม่เลือกชนชั้น ศาสนา แม้ผู้ชุมนุมเอง เราก็รักษา แล้วมันก็ออกไปใช้ลำโพงด่าเราเหมือนเดิม เจ้าหน้าที่จะเข้ามาทำงาน มันค้นถึงกระเป๋าตัง แล้วยึดเงินบ้าง โทรศัพท์บ้าง ลวนลามบ้าง สิ่งเหล่านี้มีใครรู้กับเราหรือไม่
ผู้บริหารจึงให้คนที่ไม่อยู่หอ ไม่ต้องมาทำงาน ส่วนคนอยู่หอ ก็ควงเวรไป
สิ่งหนึ่งที่เราได้กำลังใจ คือ พระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเทพทรงห่วงใยพวกเราพระราชทานน้ำ อาหาร ที่พอจะเก็บได้ พวกคุณทราบกันหรือไม่ ตอนแรกๆนั่น ยังพอมีผักให้เราได้ทานบ้าง มาตอนหลัง อาหารหลักคือไก่ทอดบ้าง หมูทอดบ้าง หลังสุด สิ่งที่เราได้กินทุกวัน ทุกมื้อ คือ แพนงหมู หรือ แพนงไก่ เพราะอะไรหน่ะหรือ ก็เพราะพวกนี้เก็บไว้อุ่นได้บ่อยๆ และมีน้ำขลุกขลิกพอราดข้าวได้หน่ะสิ พวกเราได้แต่คับแค้นใจ ก้มหน้ากินประทังชีวิตไป
ตอนนั้น เส้นทางคลองเตยถูกตัดขาด เซเว่นของเข้าไม่ได้ อยากถามว่า ถ้าท่านเจอเหตุการณ์แบบเรา ท่านจะอยู่อย่างไร ควันแรกที่พวยพุ่งขึ้นจากเซนทรัลเวิล์ด เราได้แต่ยืนมองด้วยน้ำตาคลอเบ้า เป็นห่วงคนไข้ คนที่ย้ายไม่ได้ยังเหลืออีกเยอะ เราอยากให้ทุกอย่างจบโดยเร็ว ภาวนาให้รัฐบาลขณะนั้นทำอะไรเสียที จนด้านนอกเกิดความวุ่นวาย
หลังเหตุการณ์คลี่คลาย เราก็เป็นคนหนึ่งที่ออกไปล้างถนน ถนนที่เคยมีความสวยงาม ตอนนี้มีแต่สิ่งปฏิกูล มันตั้งส้วมที่หน้าพระรูป รัชกาลที่6 หยาบหยามพระองค์ท่านมาก เราล้างถนนทั้งน้ำตา ตอนนั่นชาวกทม. ทุกอาชีพ ออกมาร่วมกันชำระถนน ชาวต่างชาติแถวนั้นออกมาแจกน้ำ คนใจบุญท่านใดไม่ทราบซื้อผงซักฟอกและอุปกรณ์ต่างๆมาให้เรา
ถามว่า
ถ้าใครก็ตาม
ที่อยู่ในเหตุการณ์นี้
จะมีความแค้นไอ้อีเหล่านั้นหรือไม่
ไม่ต้องตอบค่ะ
ให้ลองตอบกับตัวเองดู"
#คัดลอกข้อความมา CR: Mena Wachirapon ....
....
อ่านแล้วก็สะเทือนใจ และหวังว่าคนไทยจะไม่ลืมง่ายเกินไป
ว่าไอกี้และแกนนำตอนนั้นทำอะไรไว้บ้าง มันไม่ใช่แค่คิดต่างนะครับ -@T3Thee
>>>>>> คลิปประกอบเรื่องเล่า. เป็นหนึ่งในคลิปที่ดูแล้วร้องไห้.
ชื่อคลิป : เสียงปนสะอื้นของพยาบาลจุฬา [HQ].mp4
https://www.youtube.com/watch?v=hXleko42YfA&feature=youtu.be
Mena Wachirapon จึงขออนุญาติก๊อปข้อความของพยาบาลที่ รพ.จุฬา มาให้ทุกคนอ่านค่ะ (เรา : ยกเว้น 2 บรรทัดแรก. เราคิดว่ามันเป็นเรื่องราวที่พยาบาลทุกคนในประเทศนี้ต้องอ่านประกอบวิชาชีพพยาบาล)
"คือ...พยาบาลไม่ได้โหดแบบนี้ทุกคนนะคะ แต่ทุกคนมีความคับแค้นใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่การแสดงออก อาจต่างกัน โดยส่วนตัว ได้เจอเหตุการณ์ตั้งแต่มันเริ่มตั้งแคมป์ สร้างค่าย คู ประตูรบ ไล่คนไข้ออกจากจุฬา...
วันนั้น เราย้ายคนไข้ทั้งน้ำตา...คนเลวอย่างหาที่ติไม่ได้เท่านั้น จึงทำแบบนี้ได้ สมเด็จพระสังฆราชต้องย้ายหนีมัน ทั้งที่ทรงอาพาตและชรามาก จนสุดท้าย เราต้องปิดโรงบาล
โรงบาลจุฬา มีประวัตินับร้อยปี รักษาผู้ป่วยโดยไม่เลือกชนชั้น ศาสนา แม้ผู้ชุมนุมเอง เราก็รักษา แล้วมันก็ออกไปใช้ลำโพงด่าเราเหมือนเดิม เจ้าหน้าที่จะเข้ามาทำงาน มันค้นถึงกระเป๋าตัง แล้วยึดเงินบ้าง โทรศัพท์บ้าง ลวนลามบ้าง สิ่งเหล่านี้มีใครรู้กับเราหรือไม่
ผู้บริหารจึงให้คนที่ไม่อยู่หอ ไม่ต้องมาทำงาน ส่วนคนอยู่หอ ก็ควงเวรไป
สิ่งหนึ่งที่เราได้กำลังใจ คือ พระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเทพทรงห่วงใยพวกเราพระราชทานน้ำ อาหาร ที่พอจะเก็บได้ พวกคุณทราบกันหรือไม่ ตอนแรกๆนั่น ยังพอมีผักให้เราได้ทานบ้าง มาตอนหลัง อาหารหลักคือไก่ทอดบ้าง หมูทอดบ้าง หลังสุด สิ่งที่เราได้กินทุกวัน ทุกมื้อ คือ แพนงหมู หรือ แพนงไก่ เพราะอะไรหน่ะหรือ ก็เพราะพวกนี้เก็บไว้อุ่นได้บ่อยๆ และมีน้ำขลุกขลิกพอราดข้าวได้หน่ะสิ พวกเราได้แต่คับแค้นใจ ก้มหน้ากินประทังชีวิตไป
ตอนนั้น เส้นทางคลองเตยถูกตัดขาด เซเว่นของเข้าไม่ได้ อยากถามว่า ถ้าท่านเจอเหตุการณ์แบบเรา ท่านจะอยู่อย่างไร ควันแรกที่พวยพุ่งขึ้นจากเซนทรัลเวิล์ด เราได้แต่ยืนมองด้วยน้ำตาคลอเบ้า เป็นห่วงคนไข้ คนที่ย้ายไม่ได้ยังเหลืออีกเยอะ เราอยากให้ทุกอย่างจบโดยเร็ว ภาวนาให้รัฐบาลขณะนั้นทำอะไรเสียที จนด้านนอกเกิดความวุ่นวาย
หลังเหตุการณ์คลี่คลาย เราก็เป็นคนหนึ่งที่ออกไปล้างถนน ถนนที่เคยมีความสวยงาม ตอนนี้มีแต่สิ่งปฏิกูล มันตั้งส้วมที่หน้าพระรูป รัชกาลที่6 หยาบหยามพระองค์ท่านมาก เราล้างถนนทั้งน้ำตา ตอนนั่นชาวกทม. ทุกอาชีพ ออกมาร่วมกันชำระถนน ชาวต่างชาติแถวนั้นออกมาแจกน้ำ คนใจบุญท่านใดไม่ทราบซื้อผงซักฟอกและอุปกรณ์ต่างๆมาให้เรา
ถามว่า
ถ้าใครก็ตาม
ที่อยู่ในเหตุการณ์นี้
จะมีความแค้นไอ้อีเหล่านั้นหรือไม่
ไม่ต้องตอบค่ะ
ให้ลองตอบกับตัวเองดู"
#คัดลอกข้อความมา CR: Mena Wachirapon ....
....
Tuesday, 20 September 2016
#JRSKY บทความจากรุ่นนี้สู่รุ่นต่อไป : พี่อ่ำบอกผมเสมอว่า “อยากฝึกใช่มั้ย กูจะให้มึงฝึกจนมึงไม่อยากทำอาชีพนี้เลย!!!”
บทความจากรุ่นนี้สู่รุ่นต่อไป
ชื่อ/Name : นายศุภกร กันแตง (JR.TOB)
นิสิตฝึกงานสหกิจ จากมหาวิทยาลัยนเรศวร ปีการศึกษา 2558
ฝึกงานตำแหน่ง Asst.Director (ผู้ช่วยผู้กำกับ)
ฝึกช่วงเวลา 5 มกราคม 59 - 22 เมษายน 59
จุดเริ่มต้นของผมมันเริ่มจากเพื่อนผมคนหนึ่งในคณะบอกผมว่า ได้ไปสมัครที่บริษัทโฆษณาแห่งหนึ่ง ชื่อ “Sky Exits” และแนะนำให้ผมลองสมัครบ้าง ผมหาข้อมูลบริษัทนี้ดูทันที และผมทึ่งกับกองถ่ายทำของที่นี่ มันใหญ่โตมาก ผมไล่ดูโฆษณาหลายๆตัวของที่นี่ ผมบอกเพื่อนว่า “เห้ย แม่งเจ๋งว่ะ!” จึงตัดสินใจสมัครทางอีเมลล์
ไม่กี่วันต่อมาก็ได้รับการตอบกลับให้มาสัมภาษณ์ที่บริษัท เพื่อนผมโทรมาบอกว่า “เขาสัมภาษณ์ไม่ผ่าน” มันทำให้ผมรู้สึกว่าการเข้ามาฝึกงานที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ใช่ทุกคนที่จะได้
ผมเดินทางมาบริษัทแต่เช้า มาคนแรก และผมผ่านสัมภาษณ์ในที่สุด
ฝึกงานวันแรกกับที่นี่ผมต้องปรับตัวหลายอย่างมากๆ ผมมาในช่วงที่บริษัทมีงานเยอะพอดี เมื่อเข้าสัปดาห์ที่สอง พี่อ่ำมอบหมายงานโฆษณาหนึ่งตัวให้ผมทำทันทีเสมือนเราเป็นพนักงานคนหนึ่งจริงๆ ซึ่งเป็นเรื่องดี เพราะฝึกงานที่นี่คุณจะได้ทำงานจริงแน่นอน
พี่อ่ำบอกผมเสมอว่า “อยากฝึกใช่มั้ย กูจะให้มึงฝึกจนมึงไม่อยากทำอาชีพนี้เลย!!!”
เมื่อถึงวันออกกองบริษัทจะวุ่นวายเป็นพิเศษ ทุกตำแหน่งจะแบ่งหน้าที่การทำงานอย่างชัดเจน ทุกอย่างจะดูเร่งรีบไปหมด ผมในฐานะเด็กฝึกงานยอมรับว่าเหนื่อย แต่สนุกมาก การได้ออกกองจะเป็นประสบการณ์สนุกและน่าจดจำ
บริษัทนี้เปิดโอกาสให้ผมได้ฝึกในหลายๆตำแหน่งเพื่อให้รู้ว่าเราชอบอะไรกันแน่ ผมได้ออกกองในฐานะผู้ช่วยผู้กำกับ, ได้ Survey หาโลเคชั่นในฐานะโปรดิวเซอร์, ได้เก็บภาพในฐานะตากล้อง, ได้ลองทำงานแคสติ้ง หรือแม้กระทั่งหาเสื้อผ้าให้นักแสดงกับคอสตูม ซึ่งก็สนุกต่างกันไป และที่สำคัญเลย พี่ๆเพื่อนๆที่อยู่ร่วมกันมาตั้งแต่วันแรกมีส่วนสำคัญที่คอยช่วยเหลือผมอยู่ตลอด
เราอยู่กันแบบครอบครัว ทำให้สี่เดือนที่อยู่ที่นี่มันล้ำค่ามากๆ ผมขอขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆทุกคนที่คอยช่วยเหลือดูแล ขอบคุณที่เชื่อใจผม ให้ผมได้มามีส่วนร่วมในบ้านสกายเอ็กซิทส์หลังนี้ แม้จะเป็นเวลาสั้นๆ แต่มันล้ำค่ามากสำหรับผม จะไม่ลืมเลยครับ
JR.TOB
ชื่อ/Name : นายศุภกร กันแตง (JR.TOB)
นิสิตฝึกงานสหกิจ จากมหาวิทยาลัยนเรศวร ปีการศึกษา 2558
ฝึกงานตำแหน่ง Asst.Director (ผู้ช่วยผู้กำกับ)
ฝึกช่วงเวลา 5 มกราคม 59 - 22 เมษายน 59
จุดเริ่มต้นของผมมันเริ่มจากเพื่อนผมคนหนึ่งในคณะบอกผมว่า ได้ไปสมัครที่บริษัทโฆษณาแห่งหนึ่ง ชื่อ “Sky Exits” และแนะนำให้ผมลองสมัครบ้าง ผมหาข้อมูลบริษัทนี้ดูทันที และผมทึ่งกับกองถ่ายทำของที่นี่ มันใหญ่โตมาก ผมไล่ดูโฆษณาหลายๆตัวของที่นี่ ผมบอกเพื่อนว่า “เห้ย แม่งเจ๋งว่ะ!” จึงตัดสินใจสมัครทางอีเมลล์
ไม่กี่วันต่อมาก็ได้รับการตอบกลับให้มาสัมภาษณ์ที่บริษัท เพื่อนผมโทรมาบอกว่า “เขาสัมภาษณ์ไม่ผ่าน” มันทำให้ผมรู้สึกว่าการเข้ามาฝึกงานที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ใช่ทุกคนที่จะได้
ผมเดินทางมาบริษัทแต่เช้า มาคนแรก และผมผ่านสัมภาษณ์ในที่สุด
ฝึกงานวันแรกกับที่นี่ผมต้องปรับตัวหลายอย่างมากๆ ผมมาในช่วงที่บริษัทมีงานเยอะพอดี เมื่อเข้าสัปดาห์ที่สอง พี่อ่ำมอบหมายงานโฆษณาหนึ่งตัวให้ผมทำทันทีเสมือนเราเป็นพนักงานคนหนึ่งจริงๆ ซึ่งเป็นเรื่องดี เพราะฝึกงานที่นี่คุณจะได้ทำงานจริงแน่นอน
พี่อ่ำบอกผมเสมอว่า “อยากฝึกใช่มั้ย กูจะให้มึงฝึกจนมึงไม่อยากทำอาชีพนี้เลย!!!”
เมื่อถึงวันออกกองบริษัทจะวุ่นวายเป็นพิเศษ ทุกตำแหน่งจะแบ่งหน้าที่การทำงานอย่างชัดเจน ทุกอย่างจะดูเร่งรีบไปหมด ผมในฐานะเด็กฝึกงานยอมรับว่าเหนื่อย แต่สนุกมาก การได้ออกกองจะเป็นประสบการณ์สนุกและน่าจดจำ
บริษัทนี้เปิดโอกาสให้ผมได้ฝึกในหลายๆตำแหน่งเพื่อให้รู้ว่าเราชอบอะไรกันแน่ ผมได้ออกกองในฐานะผู้ช่วยผู้กำกับ, ได้ Survey หาโลเคชั่นในฐานะโปรดิวเซอร์, ได้เก็บภาพในฐานะตากล้อง, ได้ลองทำงานแคสติ้ง หรือแม้กระทั่งหาเสื้อผ้าให้นักแสดงกับคอสตูม ซึ่งก็สนุกต่างกันไป และที่สำคัญเลย พี่ๆเพื่อนๆที่อยู่ร่วมกันมาตั้งแต่วันแรกมีส่วนสำคัญที่คอยช่วยเหลือผมอยู่ตลอด
เราอยู่กันแบบครอบครัว ทำให้สี่เดือนที่อยู่ที่นี่มันล้ำค่ามากๆ ผมขอขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆทุกคนที่คอยช่วยเหลือดูแล ขอบคุณที่เชื่อใจผม ให้ผมได้มามีส่วนร่วมในบ้านสกายเอ็กซิทส์หลังนี้ แม้จะเป็นเวลาสั้นๆ แต่มันล้ำค่ามากสำหรับผม จะไม่ลืมเลยครับ
JR.TOB
Subscribe to:
Posts (Atom)